top of page

 เรื่องที่ควรรู้ก่อนทำผ้าม่าน 

  ก่อนที่คุณจะตัดสินใจทำผ้าม่าน เจ้าของบ้านจะต้องคำนึงถึง ปัจจัยต่างๆ หรือองค์ประกอบต่างๆภายในบ้าน เช่น เฟอร์นิเจอร์, ห้อง, สีของห้อง, สีของพื้น หรือแม้กระทั่งการออกแบบดีไซน์ภายในห้องนั้นว่าวัตถุประสงค์

ของการใช้งานห้องดังกล่าวนั้นเพื่ออะไร ทั้งนี้การทราบองค์ประกอบต่างๆดังที่กล่าวไว้จะส่งผลช่วยให้ตัดสินใจในการเลือกผ้าม่านได้ง่ายขึ้น

  เมื่อทราบปัจจัยต่างๆ หรือวัตถุประสงค์การใช้งานของห้องที่จะตกแต่งแล้วนั้น ผู้ออกแบบหรือเจ้าของบ้านจะ

ต้องทราบรายละเอียดหรือสิ่งสำคัญหลักๆ ในการเลือกผ้า ดังนี้

1. ประเภทของผ้าม่าน

2. สีของผ้าม่าน

3. คุณสมบัติของผ้า

  1. ประเภทของผ้าม่าน จะถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภท 

1.1 ผ้าม่านประเภท Blackout หรือ Night curtain (แบล็คเอ้าท์) หรือเรียกอีกอย่างว่าผ้าทึบแสง 100% เป็นผ้าที่มีคุณสมบัติกันแสงไม่ว่าจะเป็นแสงแดด แสงไฟ แสงUV ซึ่งหมายความว่าเมื่อผ้าแบล็คเอ้าท์สามารถกันแสงได้ ช่วยทำให้อุณหภูมิภายในตัวห้องลดลง ในขณะเดียวกันความร้อนก็จะถูกป้องกันหรือไม่สามารถเข้ามายังในตัวห้องด้วยเช่นกัน ผ้าแบล็คเอ้าท์นั้นผ่านกระบวนการพิเศษต่างๆ ซึ่งมี 3 กระบวนการ เเต่ละกระบวนการจะเเตกต่างกันไปโดยสามารถจำแนกได้ดังนี้ 

1.11 ผ้าแบล็คเอ้าท์ที่เคลือบด้วยโฟม : เป็นผ้าที่ถูกเคลือบด้วยโฟมช่วยกันแสงได้ 100 % แต่ไม่สามารถซักได้

เนื่องจากโฟมนั้นหลุดได้ง่ายอ มากไปกว่านั้นผ้าค่อนข้างเเข็งซึ่งอาจจะเป็นอุสรรคในการเย็บผ้าสำหรับช่างเย็บได้ การทำความสะอาดด้วยการซักเป็นวิธีที่ไม่เหมาะ ควรใช้เครื่องกำจัดไรฝุ่นดูดที่ตัวผ้าม่าน

1.12 ผ้าแบล็คเอ้าท์ที่เคลือบด้วยซิลิโคน : ผ้าชนิดนี้จะถูกเคลือบด้วยซิลิโคน ซึ่งจะมีความยืดหยุ่นกว่าผ้าที่ถูกเคลือบด้วยโฟม การเคลือบด้วยโฟมจะช่วยเพิ่มน้ำหนักให้กับผ้า จึงส่งผลให้ผ้าทิ้งตัวได้สวย ลอนผ้าจะขึ้นรูปทรง

สวย ในส่วนของการดูแลรักษาผ้าชนิดนี้จะสามารถซักได้เเละรีดได้ เเต่ควรใช้ไฟอ่อนในการรีดผ้าม่าน

1.13 ผ้าแบล็คเอ้าท์แบบหลังผ้า : ผ้าชนิดนี้จะมียางดำแทรกไว้ระหว่างกลางผ้า โดยหน้าเเละหลังผ้าใช้ชนิดเดียวกัน

จากนั้นก็ทำการรีดผ้าเข้าด้วยกัน แต่ผ้าชนิดนี้จะมีความแข็งมากกว่าผ้าแบล็คเอ้าท์ที่เคลือบด้วยโฟมและซิลิโคน เพราะฉะนั้นลอนจะไม่ค่อยขึ้นรูป ในส่วนของการดูและรักษาสามารถซักได้เเละรีดได้

 

หน้าผ้า

หลังผ้า

ผ้าแบล็คเอ้าท์ชนิดเคลือบด้วยโฟม

หน้าผ้า

หลังผ้า

ผ้าแบล็คเอ้าท์ชนิดเคลือบด้วยซิลิโคน

หน้าผ้า

หน้าผ้า

   ผ้าแบล็คเอ้าท์ชนิดหน้า-หลังผ้าชนิดเดียวกัน

1.2 ผ้าม่านประเภท Dimout (ดิมเอ้าท์) เป็นผ้าที่สามารถกันแสงได้เช่นกัน เเต่ประสิทธิภาพในการบล็อคเเสงได้เพียงแค่ 40% - 95% เท่านั้น ซึ่งกรรมวิธีในการทอผ้าจะแตกต่างกันไปจากผ้าแบล็คเอ้าท์ นั่นก็คือผ้าดิมเอ้าท์จะถูกทอขึ้นมา 3 ชั้น โดยชั้นระหว่างกลางของผ้าจะใช้เส้นด้ายสีดำทอแทรกลงไป ซึ่งในส่วนสีดำตรงนี้เป็นจุดที่ช่วยดูดซับรังสี UV เนื้อผ้าชนิดนี้จะมีความอ่อนตัวกว่าผ้าแบล็คเอ้าท์ ดังนั้นลอนของผ้าจะขึ้นรูปได้ชัดกว่าผ้าแบล็คเอ้าท์ มากไปกว่านั้นด้วยเนื้อผ้าที่อ่อนตัวกว่าผ้าแบล็คเอ้าท์ ทำให้ง่ายต่อการตัดเย็บผ้าได้เช่นกัน

ตัวอย่างผ้า Dimout

1.3 ผ้าโปร่ง (Day curtain) มีเนื้อผ้าบางกว่าและเบากว่าผ้าแบล็คเอ้าท์เเละดิมเอ้าท์ คุณสมบัติของผ้าโปร่งคือช่วยกรองแสงได้ถึง 80% จึงทำให้ห้องดูโปร่งหรือรู้สึกสบายตา และยังช่วยพรางตาจากภายนอก กล่าวคือเมื่อมองจากภายนอกอาคารเข้ามายังภายในอาคาร คนข้างนอกจะไม่สามารถมองเห็นเข้ามาได้ แต่คนภายในอาคารสามารถมองเห็นออกไปภายนอกได้ชัดเจน มากไปกว่านั้นผ้าโปร่งยังช่วยให้ความสวยงาม เมื่อนำมาติดตั้งคู่กับผ้าทึบ

ตัวอย่างผ้าโปร่ง

2. สีของผ้าม่าน : การเลือกสีของผ้าม่านเป็นปัจจัยสำคัญอย่างนึงในการตกแต่งห้อง ซึ่งสีจะช่วยให้ห้องนั้นดูมีพื้นที่มากขึ้น หรือแคบลงขึ้นอยู่กับการเลือกสีนั่นเอง ถ้าหากเลือกใช้สีอ่อนจะทำให้ห้องดูกว้างขึ้นเนื่องจากสีอ่อนจะช่วยกระจายแสงและสะท้อนเเสง เช่น สีครีม, สีเหลือง, หรือ สีเทาอ่อน ในทางกลับกันถ้าหากต้องการให้ห้องดูแคบจะต้องเลือกสีผ้าม่านโทนสีเข้ม

3. คุณสมบัติของผ้า : คุณสมบัติของผ้าจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์การใช้งานของผู้ใช้ ยกตัวอย่างเช่น ต้องการไม่ให้แแสงเข้าห้อง หรือต้องการผ้าที่กันความร้อน, ผ้ากันฝุ่น เป็นต้น

bottom of page